1.1
รู้ความหมายของการวิจัยธุรกิจ
1.2 เห็นความสำคัญของการวิจัยธุรกิจ
1.4 เข้าใจหลักการค้นหาความรู้ความจริงของมนุษย์
1.5 เข้าใจแนวคิดพื้นฐานการวิจัย
ความหมายของการวิจัยธุรกิจ
การวิจัย หมายถึง
กระบวนการค้นหา ความรู้ ความจริง และความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการศึกษาโดยอาศัยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
ดำเนินการวิจัยอย่างเป็นระบบมีระเบียบแบบแผนและกฎเกณฑ์เพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องและเชื่อถือได้
ธุรกิจ
(Business)
หมายถึง กิจกรรมต่าง ๆ
ที่ก่อให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการโดยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันและมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการประโยชน์หรือกำไรจากการกระทำกิจกรรมนั้น
การวิจัยธุรกิจ หมายถึง กระบวนการศึกษาค้นคว้า หาความรู้ ความจริงเกี่ยวกับธุรกิจ
ด้วยวิธีการและหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific
method) ถูกต้องตามระเบียบแบบแผน มีวัตถุประสงค์ชัดเจน เก็บรวบรวมข้อมูล
และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ สามารถใช้แก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
เพื่อให้ธุรกิจดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของการวิจัยธุรกิจ
การวิจัยธุรกิจมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างองค์ความรู้ที่เชื่อถือได้
การพัฒนานวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาวิชาการในแต่ละสาขา
การเข้าถึงและใช้สารสนเทศที่ถูกต้อง ลดอุปสรรคด้านระยะเวลาและระยะทางในการติดต่อสื่อสาร
เพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ
เป็นประโยชน์ต่อการพยากรณ์และใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารธุรกิจ
การค้นหาควารู้ความจริงของมนุษย์
การค้นหาความรู้ความจริงของมนุษย์มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจากการสอบถามผู้รู้ การใช้ประสบการณ์ส่วนตัว การใช้จารีตประเพณี การอนุมาน
การอุปมาน
กระทั่งการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นกระบวนการที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในการแสวงหาความรู้ความจริงของมนุษย์ ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ ดังนี้
1) ขั้นปัญหา (Problem) เป็นขั้นตอนการสังเกตเพื่อระบุปัญหา หรือสิ่งที่ต้องการศึกษา และกำหนดขอบเขตของปัญหา
2) ขั้นตั้งสมมุติฐาน (Hypothesis) ขั้นนี้ คือ ขั้นการคิดคำตอบที่คาดหวังว่าควรจะเป็น หรือการคาดเดาคำตอบที่จะได้รับ
3) ขั้นรวบรวมข้อมูล (Gathering data) คือ การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบสมมติฐานที่ตั้งไว้ว่าถูกหรือผิด
โดยมีหลักฐานยืนยันอาจทำได้โดยการสังเกตหรือการทดลอง
4) ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
(Analysis)
เป็นขั้นที่นำข้อมูลที่ได้จากการสังเกต การค้นคว้า การทดลอง
หรือการรวบรวมข้อมูลหรือข้อเท็จจริง มาทำการวิเคราะห์ผล
อธิบายความหมายของข้อเท็จจริง แล้วนำไปเปรียบเทียบกับสมมติฐานที่ตั้งไว้
ว่าสอดคล้องกับสมมติฐานข้อใด
5) ขั้นสรุป (Conclusion) คือ การสรุปว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับสมมติฐาน
ตามหลักเหตุและผลเพื่อให้ได้คำตอบของปัญหา
แนวคิดพื้นฐานการวิจัย
การวิจัยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบปัญหาหรือข้อสงสัยโดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างเป็นระบบเชื่อถือได้
การวิจัยธุรกิจส่วนมากเป็นการวิจัยที่ใช้แนวคิดพื้นฐานในการวิจัยทางสังคมศาสตร์ ซึ่งแบ่งออกเป็น
2 แนวคิด คือ
1. แนวคิดปฏิฐานนิยม (Positivism)
หรือ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) เป็นวิธีการค้นหาความรู้และความจริงโดยเน้นที่ข้อมูลเชิงตัวเลข การวิจัยเชิงปริมาณจะพยายามออกแบบวิธีการวิจัยให้มีการควบคุมตัวแปรที่ศึกษา
ต้องจัดเตรียมเครื่องมือรวบรวมข้อมูลให้มีคุณภาพ จัดกระทำสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องให้เป็นมาตรฐาน
และใช้วิธีการทางสถิติช่วยในวิเคราะห์และประมวลข้อสรุปเพื่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด
2. แนวคิดปรากฏการณ์นิยม
(Phenomenal) หรือ การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research)
เป็นการวิจัยที่แสวงหาความจริงในสภาพที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ
(Naturalistic
inquiry)ซึ่งเป็นการสอบสวน
มองภาพรวมทุกมิติ (Holistic perspective)
ด้วยตัวผู้วิจัยเอง
เพื่อหาความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ที่สนใจกับสภาพแวดล้อมนั้น
โดยให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เป็นความรู้สึกนึกคิด คุณค่าของมนุษย์และความหมายที่มนุษย์ให้ต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆรอบตัว
เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการตีความสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย (Inductive analysis)
เป็นการวิจัยที่เน้นการหารายละเอียดต่างๆ ของกลุ่มประชากรที่ทำการศึกษา
ที่จะก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนั้นๆ
ข้อมูลหรือข้อค้นพบอาจได้มาจากการสังเกตหน่วยที่ต้องการศึกษา
การวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นวิธีค้นหาความจริงจากเหตุการณ์ และสภาพแวดล้อมที่มีอยู่ตามความเป็นจริง โดยพยายามวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของเหตุการณ์กับสภาพแวดล้อม
เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ (Insight) จากภาพรวมของหลายมิติ ความหมายนี้จึงตรงกับความหมายของการวิจัยเชิงธรรมชาติ
(Naturalistic research) ซึ่งปล่อยให้สภาพทุกอย่างอยู่ในธรรมชาติ
ไม่มีการจัดกระทำ (Manipulate) กับสิ่งที่เกี่ยวข้องใดๆเลย
บรรณานุกรม
กิตติพันธ์
คงสวัสดิ์เกียรติ, ไกรชิต
สุตะเมือง, เฉลิมพร เย็นเยือก, และเรวดี อันนันนับ. (2552).
ระเบียบวิธี
วิจัยทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ: เพียร์สัน
เอ็ดดูเคชั่น.
ตุลา มหาสุธานนท์. (2548). หลักการจัดการหลักการบริหาร. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์รุงทรัพย์การพิมพ์.
นราศรี ไววนิชกุล
และ ชูศักดิ์ อุดมศรี. (2551).
ระเบียบวิธีวิจัยธุรกิจ. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพฯ:
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นิศา ชูโต. (2545).
การวิจัยเชิงคุณภาพ.
กรุงเทพมหานคร: แม็ทปอยท์,
บุญชม
ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
พรทิพย์ อุดมสิน และ บุญศรีพรหมาพันธุ์. (2550).
“ความรู้พื้นฐานในการวิจัย.” ใน เอกสารการสอนชุดวิชาการวิจัยเบื้องต้นทางสารสนเทศศาสตร์. หน่วยที่ 1. พิมพ์ครั้งที่ 4. นนทบุรี: สาขาวิชาศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์.
(2543).
วิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่
8. กรุงเทพฯ: สำนักนักงานทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
เพ็ญแข แสงแก้ว.
(2541). การวิจัยทางสังคมศาสตร์. ปทุมธานี: ภาควิชาคณิตศาสตร์และสถิติ
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
มนสิช สิทธิสมบูรณ์.
(2547). ระเบียบวิธีวิจัย. พิษณุโลก: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ยุทธพงษ์ ไกรวรรณ์.
(2545). พื้นฐานการวิจัย ฉบับปรับปรุงใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ:
สุวีริยาสาส์น.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : นานมีบุคส์.
ลัดดาวัลย์ เพชรโรจน์ และ อัจฉรา ชำนิประศาสตร์. (2547). ระเบียบวิธีการวิจัย. กรุงเทพฯ: พิมพ์ดีการพิมพ์.
วัชราภรณ์ สุริยาภิวัฒน์. (2546). วิจัยธุรกิจยุคใหม่. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิชิต อู่อ้น.
(2553). การวิจัยและสืบค้นข้อมูลทางธุรกิจ. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
สธน
เสนาสวัสดิ์. (2556). ทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 7 เมษายน 2556. จาก : http://www.baanjomyut.com/library_2/scientific_thinking_skills/06.html
สมยศ
นาวีการและผุสดี รุมาคม. (2545). การบริหารธุรกิจ. กรุงเทพฯ : กรุงสยาม.
สิน พันธุ์พินิจ.
(2547).
เทคนิคการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์.
สุวิมล ติรกานันท์. (2548).
ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์ : แนวทางสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่
5. กรุงเทพฯ: จุลาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรุณี อ่อนสวัสดิ์.
(2551). ระเบียบวิธีวิจัย. พิษณุโลก: ภาควิชาการศึกษา
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Basic
Business Research. (2011).
[Online] : Search on November 29,
2011. Available from : http://managementhelp.org/businessresearch/index.php.
Cooper,
D.R. and P.S. Schindler. (2011). Business research methods. 11th ed. New York: McGraw-
Hill Higher Education.
Ebert,
R.J. and R.W.Griffit. (2000). Business Essentials. New Jersey :
Prentice Hall.
Greener,
S. (2008). Business Research Method. London: London Business School. [Online]
: Search on November 29, 2011. Available from : http://bookboon.com/en/
textbooks/marketing- media/introduction-to-research-methods.
Headd,
B., and R. Saad. (2008). Do Business
Definition Decisions Distort Small Business Research
Results.
[Online] : Search on November 29,
2011. Available from : http://archive.sba.gov/
advo/research/rs330tot.pdf.
Loomba, N.P. (1978). Management, a quantitative perspective. New York: Macmillan .
Plunkett, W.R. and R. F. Attner. (1994). Introduction to Management. Belmont: Wadsworth.
Rojas. E., and D. Media. (2012). Definition of Business Research. [Online]. Search on December 26,
2012. Available from : http://smallbusiness.chron.com/definition-business-research-42009.html.
Simon,
H.A. (1960). The
New Science of Management Decision. New York: Harper and Row.
Wimmer,
Roger. D. and Joseph R. Dominick. (1987). Mass Media Research an Introduction. 2nd ed.
Belmont: Wadsworth Publishing.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น